Mail Merge Marketing แบบมืออาชีพ เพียง 4 ขั้นตอนด้วย Microsoft Publisher

Mail Marketing

Microsoft Publisher โปรแกรมออกแบบหนังสือที่น้อยคนจะรู้จัก! และน้อยคนนักรวมทั้ง Add ด้วย 😅 ที่รู้ว่า Microsoft Publisher มี Feature Mail Merge ที่เหนือกว่า Word อีกด้วย 😲

4 จุดเด่น ที่ Publisher เหนือกว่า Microsoft Word

  1. Publisher สามารถจัดวาง Layout ได้อิสระกว่า Word เพราะเป็นโปรแกรมออกแบบ Graphic
  2. สามารถ Mail Merge รูปภาพได้โดยไม่ต้องเขียนสูตร Merge Filed เหมือนอย่างใน word
  3. สามารถ Mail Merge ในส่วนของ Subject และเพิ่มการส่งแบบ CC ได้เหนือกว่า word ที่ส่งแบบ To ได้อย่างเดียว
  4. Publisher สามารถแนบไฟล์ในการ Mail Merge ได้ ซึ่งทุกเมลจะได้รับไฟล์แบบเดียวกัน

แหม ! ทำมาขนาดนี้ น่าจะเพิ่มการแนบไฟล์แบบรายบุคคลได้ด้วย ถ้ามีละก็จะเจ๋งสุดๆ ไปเลย ไม่รู้กั๊กไว้ทำไมเนอะ 55 🤣 เรามาดูวิธีการทำ Mail Merge Marketing กันดีกว่า

สำหรับท่านใดที่ผ่านมาเจอหน้านี้ แลัวยังใช้ Mail Merge ไม่คล่อง แนะนำให้ลองไปที่นี้ก่อนนะครับ Mail Merge 101 พอกลับมาหน้านี้แล้ว รับรองเป็นเร็วขึ้น แน่นอน Add รับรอบ ใช้เวลาแป๊บเดียว 😁

ขั้นตอน การสร้าง Mail Merge สำหรับการทำ Email Marketing

เตรียมข้อมูลใน Excel

1. การเตรียมข้อมูลใน Excel นอกจากข้อมูลที่เป็นข้อความแล้ว ไฟล์รูปภาพ เราจะใช้ part file ที่อยู่ของไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของเรา ตามตัวอย่าง คอลัมม์ Img1, Img2, Img3


เริ่มการวาง Layout สำหรับ Mail Merge

2. เลือกใช้ Template โดยไปที่ เมนูไฟล์ > พิมพ์ในช่องค้นหา “email” เลือก Template หรือ จะเลือก New file ใหม่เพื่อวาง Layout เองก็ได้

3. Create
4. เข้าเมนู Mailings
5. E-mail Merge > Step by Step E-mail merge wizard…
6. Next: create_or_connect_to_a_recipient_list
ขั้นตอนนี้เหมือนกับการเชื่อมต่อข้อมูล Mail Merge From Excel file


7. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แล้วกด OK

หน้าต่างคอลัมน์ที่จะใช้ Mail Merge


8. เริ่มวาง Layout เช่น ข้อความ รูปภาพ และ Logo


9. คลิกขวาที่รูปภาพ > Change Picture > Reset Picture (ถ้ารูปภาพแสดงผล ไม่เต็ม)


Layout (ซ้าย) กับ Design ที่เสร็จ (ด้านขวา)


การส่ง Mail Merge

10. Finish & Merge > Send Email Merge

การตั้งค่าในการส่ง Mail Merge

  • To: สามารถใช้การ Merge filed ได้
  • Subject: สามารถใช้การ Merge filed ได้
  • cc: สามารถใช้การ Merge filed ได้
  • Priority: สามารถกำหนดให้เป็นเมลที่สำคัญ ซึ่งจะโชว์ที่ผู้รับเมล
  • Attachments: สามารถแนบไฟล์ได้


สรุป

ข้อสังเกตที่พบ ซึ่งอาจจะเป็นที่เครื่อง Add คนเดียวก็ได้ครับ😅
ถ้าเราใช้ข้อความ ภาษาไทย+ภาษาอังกฤษ ในกล่องเดียวกัน กล่องข้อความนั้นตอนส่งเมลจะกลายเป็นรูปภาพทันทีทำให้ตัวอักษรไม่ชัด อ่านยาก ฟอนต์แตก แต่ถ้าในกล่องข้อความนั้นใช้เพียงภาษาเช่น ไทยก็ไทยทั้งหมด อังกฤษก็อังกฤษ แบบเดียวกันหมดทั้งกล่อง ตอนส่งเมล์ที่ได้รับ กล่องข้อความยังอยู่ในรูปตัวอักษรเหมือนตอนที่เราออกแบบไว้

โดยรวมแล้ว การใช้ Mail Merge ด้วย Microsoft Publisher เหมาะกับธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น หรือธุรกิจที่ใช้ Email เป็นตัวส่ง Promotion ให้กับลูกค้า เช่น ธุรกิจสปา สถาบันความงาน หรือโรงแรม การใช้ Microsoft Publisher เพื่อออกแบบ Mail Merge ในด้าน Marketing เช่น การส่งคูปอง, ส่วนลด หรือข่าวสารต่างๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่พอใช้ได้ครับ

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Create a mail or e-mail merge in Publisher

Microsoft Edge 10 feature was born for better working online.

Microsoft Edge for Business

Microsoft Edge Browsers ที่เกิดมาเพื่อคนทำงาน online มี Tool พื้นฐานต่างๆ และเสริมประสิทธิ์ภาพในการทำงานของคุณด้วยคู่หู AI อย่าง Copilot ที่ช่วยให้งานคุณเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว Edge ยังมี Feature เด็ด ๆ อีกมากมายไปดูกัน

sidebar in microsoft edge1

1.Sidebar

เริ่มจาก Sidebar แถบด้านข้างที่รวบรวมเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยๆ เอาไว้ในเมนู Tool เมื่อเราคลิกเมนูใน sidebar แล้วจะมีหน้าจอสไลด์ออกมาจากด้านขวามือ กลายเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานย่อยๆ ทันที เช่น การ search, การอ่านเมล หรือการตอบแชท ทั้งนี้เพื่อเราสามารถโฟกัสกับหน้าการทำงานหลัก ใน sidebar นี้สามารถเพื่อไอคอน app ต่าง ๆ ได้อีกด้วย

2.Tool

Tool จะรวบรวมเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการทำงาน เช่น
Internet – Internet speed test การทดสอบความเร็วของ Internet
การคำนวณ – เครื่องคิดลข, Unit converter (การแปลงค่าหน่วยวัดต่างๆ)
ภาษา – Translator, Dictionary การแปลและคำศัพท์
เวลา – World Clock การดูเวลาในประเทศและเวลาของประเทศต่างๆ ได้

Other tools กลุ่มเครื่องมืออื่น ๆ​

การจับเวลา – Timer ตัวนับเวลาถอยหลัง, Stopwatch ตัวจับเวลา
ตัวเลข – Random number กำหนดช่วงตัวเลขได้, Number convert การแปลงค่าของเลขฐาน
QR Code – สร้าง QR จาก link โดยไม่ต้องอาศัย platform ใดๆ
การพิมพ์ – Typing test ฝึกทักษะการพิมพ์ภาษาอังกฤษของเรา

และ More Tool ในหน้าต่างใหม่ซึ่งมีเครื่องมืออื่นๆ ให้ใช้เพิ่มเติมอีก เช่น

Code Format – เครื่องมือที่ช่วยปรับโค้ดที่เราเขียน ให้เป็นระเบียบมากขึ้น
Color Picker – เครื่องมือแสดงโค้ดค่าสีสำหรับการออกบบ

Toolbar

แถบเมนู ด้านบนได้แก่ Workspace หรือการสร้างพื้นที่การทำงาน โดยสามารถแชร์ workspace นี้ให้คนอื่นเข้ามา join ได้ หรือ action menu เมนูในการจัดการหน้าต่าง, immersive Reader การเปลี่ยนหน้าจอให้เหมาะสำหรับการอ่าน, Extension เมนู app เสริมการทำงานของ Edge, Split Screen พื้นที่หน้าจอในการทำงาน, Collections การจัดเซ็ตของเว็บไซค์ที่ใช้ทำงาน และ Browsers essentials การดูสถานะการทำงานของ Edge และบันทึกด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากการใช้งาน internet ของเราในช่วง 30 วันที่ผ่านมา

3.Collections

การใช้งานคล้ายกับ folder เมื่อเราสร้าง collections (เปรียบเสหมือนการสร้าง Folder) และการ Add current page ลงใน collections (เหมือนการสร้างไฟล์) และเรายังสามารถเขียน ✍ โน๊ตข้อความเพิ่มติมได้ สิ่งที่แตกต่างของ collections กับ favorites ก็คือ Collections แสดงผลเป็นหน้าเว็บไซต์แทนตัวอักษรของ URL ของเมนู Favorites 👍

สำหรับคนที่ทำงานผ่าน Platform ที่ต้องเปิดหน้าเว็บไซต์ หลายหน้า ๆ พร้อมกัน ๆ ใช้ฟังก์ชั่น open all in … เพื่อเรียกทุกหน้าใน collection พร้อมกัน จะช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน 😎

4.Tab action menu

เป็นเมนูในการจัดการแถบหน้าต่างที่เปิดอยู่ เราสามารถกลับแถบหน้าต่างด้านบน ให้กลายเป็นแถบหน้าต่างแนวตั้งด้านข้างได้ ด้วยเมนู Trun on vertical tabs edge เมื่อเป็นแนวตั้งแล้ว การจัดหน้าต่างๆ จะคล้ายกับการใช้ Collection เมื่อคลิกขวาที่แถบหน้าต่างเลือก Add to New Group (เป็นเหมือนการ Folder) แล้วเลือกหน้าต่าง (เปรียบเสหมือน File) เข้าใน Group ที่สร้างไว้ ซึ่ง Group เหล่านี้ยังส่งต่อเป็น Workspace ได้ด้วยเมนู Move tab group to a workspace

5.Workspaces

เป็นการสร้างพื้นที่การทำงาน และสามารถแชร์ให้คนอื่นเข้ามา join ใน workspace ของเราได้ พื้นที่ทำงานก็คือหน้า Edge Browsers ของเรานั่นเอง โดยเพื่อนของคุณสามารถถึง Collection และ Group ที่คุณสร้างไว้ได้ โดย Microsoft เคลมว่าการแชร์นี้ยังรักษาความเป็นส่วนตัวหรือข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยผู้ที่เข้ามา join นี้จะไม่สามารถเข้าถึงบ้างหน้าที่ต้งใส่ password ระบบจะไม่ auto fill ให้ แต่ถ้าหากใครที่ยังกังวลเรื่องข้อมูลบุคคล ก็ใช้การสร้าง account กลางเพื่อสร้าง workspace ใช้ทำงานร่วมกันแทน

6.Browsers essentials

เมนูการแสดงผล ในโหมดพลังงาน สถานะความปลอดภัยทางไซเบอร์จากการใช้งาน ถ้าใครอยากปรับแต่งเพิ่มเติม เข้าไปที่เมนูจุด 3 จุด

7.การจัดการ PDF File

นอกจากการเปิดดู PDF File ได้แล้ว Edge สามารถเพิ่มข้อความ, Highlight, Note และ save ไฟล์ที่แก้ไขส่งให้เพื่อนร่วมงานได้ Edge สามารถแปลภาษาในเอกสาร PDF และอ่านออกเสียงให้เราฟัง และสรุปเอกสาร PDF ด้วย copilot ทำได้ขนาดนี้ Acrobat reader อยู่ยากเหมือนกันนะเนี่ย 😅

8. การสร้าง Wed App จาก Website

หลายคนอาจจะ งงๆ ว่าเราจะสร้าง Web App จาก Website ไปทำไมในเมื่อเรามี Collection, Group และ Workspace ให้ใช้งานอยู่แล้ว ?

สิ่งที่แตกต่างระหว่างการใช้ Website กับการใช้ Web App

อินเตอร์เฟซที่สะอาด: เว็บแอป มันจะลดลงทุกองค์ประกอบของเบราว์เซอร์ ทำให้มีอินเตอร์เฟซที่สะอาดตา และทำงานได้รวดเร็วขึ้น

การเข้าถึงแบบออฟไลน์: Progressive Web Apps (PWAs) เว็บแอผที่สร้างด้วยวิธีนี้สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้แอปวาดรูป เช่น Excalidraw เมื่อแปลงเป็นเป็น เว็บแอป จะทำงานได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (แต่เว็บแอป กับ wed Stream ต่างๆ เช่น การฟังเพลง)

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย: เว็บแอปที่สร้างขึ้นนี้จะจำกัด การเข้าถึงรายชื่อ ผู้ติดต่อ เพื่อ ลดความเสี่ยงในเรื่องความเป็นส่วนตัวต่างจากการเข้าเว็บไซต์ platform จริงๆ ที่จะมีการเก็บข้อมูลในทุกๆ จุดจากการใช้งาน

การสร้างเว็บแอป เหมาะกับการใช้งาน Web Service มากกว่า เช่น เว็บแผนที่, เว็บสร้างแผนภูมิ, เว็บออกแบบ 2D-3D หรือเว็บเล่นเกมส์ออน์ไลน์ แต่ทั้งนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกเว็บไซต์

9. Screenshot

ทีเด็ด ก็คือ การจับภาพแบบ long screen และ Full Screen ขนาด 1080 p ได้ครับโดยไม่ต้องเลื่อนเมาท์ และเลือกจับเฉพาะหน้าจอได้ เช่น จับเฉพาะ sidebar


10. Copilot in Edge

ทีเด็ดสำหรับคนทำงาน ก็คือ เมนู “compose” เมนูช่วยเขียนที่สามารถกำหนด Tone การเขียน, รูปแบบของบทความ, เมล, ไอเดียลิสต์ และ blog และความยาวของบทความ และในส่วนของ “Chat” สามารถเพิ่ม plugin จาก platform อื่นได้ เช่น เพิ่มการค้นหาข้อมูลเฉพาะทาง, สูตรอาหาร, สินเชื่อ, การจองโต๊ะ, เชื่อมต่อโทรศัพท์, ช๊อปปิ้ง และการสร้างเพลง

และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งสำหรับคนทำงาน Microsoft edge อื่นๆ Function กระเป๋าเงินออน์ไลน์, การสะสม reward เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อของออนไลน์ และสำหรับคนที่ใช้บัญชีองค์กรสามารถใช้ Mode Tracking prevention เพื่อป้องกันการติดตามพวกคุ๊กกี้ รวมถึงลดการมองเห็น Ad โฆษณาได้อีกด้วย

การพิมพ์ Label สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าด้วย Mail Merge

Lable by Mail Merge

การพิมพ์ Label ฉลากสินค้า

ใน Post แรกเราได้สร้างไฟล์ประกาศนียบัตรด้วยพื้นฐานการใช้ Mail Merge กันไปแล้ว สำหรับ Post นี้ เราจะมาเรียนรู้เพิ่มเติมในการใช้ฟังก์ชั่นใน Mail Merge เพื่อสร้างไฟล์ Label สติ๊กเกอร์หรือฉลากสินค้าสำหรับติดบน Packet ผลไม้อย่างแอปเปิ้ล

ขั้นตอน


1. การเตรียมข้อมูลใน โปรแกรม Excel


2. สร้าง Layout ให้มีขนาดใกล้เคียงกับ Label สติ๊กเกอร์ที่จะใช้พิมพ์


3. insert Merge Filed ลงในช่อง Label ในขั้นตอนนี้ให้เราตกแต่งข้อความปรับขนาดให้เรียบร้อย


4. ใส่ Function เพิ่มโดยเลือกที่เมนู Rule > Next Record โดยวางต่อจาก File สุดท้าย


5. Copy ข้อความแล้ว past ให้เต็มหน้า A4


6. กดที่เมนู ABC Preview Results


7. เลือกเมนู Broder > No Broder เพื่อลบเส้นตรางออก



8. เราสามารถปรับแต่ความกว้างของตรางและสีในส่วนของราคาได้เพิ่มเติม

ใน Post ต่อไปเราจะมาสร้าง Email Marketing ที่มีทั้งรูปภาพและข้อความด้วยการใช้ Mail Merge กัน

Certificate by Mail Merge

Mail Merge Certificate

ทำประกาศนียบัตรด้วย Mail Merge

สร้างประกาศนียบัตรด้วย mail Merge
การสร้างจดหมายเวียนที่มีเนื้อหาเหมือนกัน แต่จะมีเนื้องหาบางส่วนที่แตกต่างกัน เช่น ชื่อผู้รับ ที่อยู่ หรือรายละเอียดเฉพาะของแต่ละบุคคลในการสร้าง “ประกาศนียบัตร” สำหรับผู้เข้าอบรมคอมพิวเตอร์โปรแกรม

ขั้นตอน

  1. การเตรียมข้อมูลใน โปรแกรม Excel
  2. Layout ประกาศนียบัตรผ่าน โปรแกรม Microsoft Word
  1. ข้อมูลรายชื่อผู้เข้าอบรมและรายละเอียดวิชาที่เข้าอบรมประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล หลักสูตรที่อบรม รุ่นที่ วันจบการอบรม และที่อยู่ในการจัดส่งประกาศนียบัตร


2. สร้าง Layout สำหรับประกาศนียบัตร โดยใช้ Template ใน Word และ เชื่อมต่อข้อมูลกับ Excel ไฟล์


3. ปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในโปรแกรม Outlook ก่อน และเปิด Folder outbox เพื่อดู email จากการ Merge ก่อนการส่งจริง


Insert Merge Field ตาม Layout ที่ต้องการ


Preview Results เพื่อดูข้อความจริง ในใบประกาศนียบัตร


Finish & Merge > เลือกที่ Edite Individual Documents เพื่อการตรวจสอบความถูกต้อง และยังสามารถแก้ไขได้ก่อนการพิมพ์


เมื่อกด OK แล้ว จะได้ไฟล์ประกาศนียบัตร ตามจำนวนรายชื่อจากไฟล์ Excel ในขั้นตอนนี้เราสามารถแก้ไขได้


สุดท้ายเราจะได้ 2 ไฟล์ คือ ไฟล์ต้นฉบับที่ link ข้อมูลกับ Excel ไฟล์ และไฟล์ที่ 2 คือไฟล์ที่ Merge เรียบร้อยแล้ว

ใน Post ต่อไป Mail Merge 201 เราจะมาลองใช้ฟังก์ชั่นใน Mail Merge สำหรับ การพิมพ์ Label ลงบนสติ๊กเกอร์กัน

Excel Vlookup – level 2

Function HIT มาต่อกันกับ Vlookup Level 2

มาต่อจาก post ที่แล้ว Excel Vlookup – Level 1 ที่สอนการใช้ Vlookup เบื้องต้น สำหรับ Post นี้ จะเป็นทริคที่ใช้กันบ่อยๆ เพื่อแก้ปัญหาเวลาใช้สูตร Vlookup มีจุดสำคัญของการใช้สูตรประเภท lookup อยู่ที่ รายการที่ต้องการค้นหา จะต้องมีรูปแบบเหมือนกัน กับแหล่งข้อมูลที่จะไปหาแบบเป๊ะๆ 100% สูตร Vlookup จึงจะทำงาน แต่บางครั้ง ข้อมูลจาก 2 ที่ก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน

โดยโจทย์ เราต้องการนำรหัสการนำเข้าผลไม้ของประเทศต่างๆ จากตารางข้อมูล มาใส่ในตารางรายการของเรา ซึ่งในตารางข้อมูล ชื่อของผลไม้และชื่อประเทศ นั้นอยู่รวมในช่องเดียวกันและมีเครื่องหมายขีดคั่นตรงกลาง แต่ตารางรายการที่เราจะใส่ข้อมูล ชื่อผลไม้ แยกกันอยู่คนละช่อง

อธิบายสูตร

VLOOKUP (หาอะไร = โดยรวมคอลัมน์ C5:C9 กับ D5:D9, จากไหน = G5:H15, ผลลัพธ์ที่ต้องการ = คอลัมน์ที่ 2, เงื่อนไขในการเปรียบเทียบ = 0)
  1. C5 : C9 คือ คอลัมน์ ชื่อผลไม้
  2. &” – “& คือ เครื่องหมายเชื่อม คอลัมน์ ผลไม้ กับ ประเทศ
  3. D5 :D9 คือ คอลัมน์ ชื่อประเทศ
  4. G5 : H15 คือ คอลัมน์ จากตารางที่มีข้อมูลที่เราต้องการ
  5. เลข 2 คือ คอลัมน์ที่ 2 จากตารางที่มีข้อมูลที่เราต้องการ
    * ตัวสุดท้ายใส่เลข 0 = เปรียบเทีบบความถูกต้อง 100%

จุดสำคัญ

  1. Excel Version ที่ต่ำกว่า Office 2021 ควรใส่เครื่องหมาย $ เพื่อล็อค cell ไม่ให้เลื่อนออกเวลาใช้สูตร สำหรับ Office 2021 และ Office365 ขึ้นไปไม่ต้องใส่ $ ก็ได้
  2. การใช้เครื่องหมาย & (แอนด์) เป็นการเชื่อม Cell 2 cell ให้ต่อกัน แต่ถ้าระหว่าง 2 cell มีเครื่องหมาย หรือ อักษรคั่น ให้ใส่เครื่องหมายคำพูด ” ” หรือ Duble code แทรก กลางระหว่าง 2 cell และเครื่องหมาย & ที่หัวและท้ายเครื่องหมายคำพูด จึงจะสามารถพิมพ์ข้อความที่คั่นกลางได้

ใน Post ต่อไปเราจะมาลองใช้ xloopup ฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลที่ประสิทธิ์ภาพสูงกว่า Vloopup และ hloopup

Microsoft Loop

Podcast: Microsoft Loop

ในโลกการทำงานแบบ Online การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของทีมงาน

ในการประชุม Discussion หรือ Brainstorm งานเหล่านี้เรามักจะทำงานผ่านโปรแกรมสำหรับพิมพ์บันทึก แต่ถ้าเป็นการกำหนดวันเวลา หรือผู้รับผิดชอบ เราก็จะใช้โปรแกรมในรูปตาราง เพื่อความชัดเจนในการมอบหมายงาน และกำหนดระยะเวลาในการทำงาน เพราะฉะนั้นในหนึ่ง Project จะประกอบไปด้วยไฟล์หลายรูปแบบ

เช่น Word, Excel, PowerPoint และรวมถึงไฟล์รูปภาพ และวิดีโอต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุก Function ของการทำงานแต่ละคน หากไฟล์ใดไฟล์หนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องไล่อัพเดทไฟล์อื่นๆ เพื่อให้แผนงานทั้งหมดมีความสอดคล้องกัน


Microsoft จึงออกแบบ Microsoft Loop Platform ที่ครอบคลุมรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันทั้งหมดเอาไว้ในที่เดียว

เริ่มตั้งแต่การ Brainstorm Idea สร้างตารางกำหนดขั้นตอนการทำงาน กำหนดผู้รับผิดชอบ, ใส่รูปหรือ link วิดีโอจากแหล่งต่างๆ การติด Lable รวมถึงการทำเช็กลิสต์ เพื่อสรุปความคืบหน้าของโครงการในแต่ละขั้นตอน และ สร้าง Due date สำหรับแจ้งเตือนก่อนถึงกำหนด

และสุดท้ายยังเพิ่ม Comment ในจุดต่างๆ แถมใส่ Emoji และ Animation น่ารักๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี และปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อนร่วมงาน

แล้ว Microsoft Loop ต่างจาก Word, Excel หรือ OneNote อย่างไร?


1. Microsoft Loop ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นทีมได้อย่างรวดเร็วจึงมี Template ให้เลือกใช้ เช่น Project Beef, Team Decision, Project Planner และ Meeting Note โดยตัว Template จะมีโครงร่างหรือหัวข้อต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะการทำงานในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว


2. พื้นที่การทำงานภาย Microsoft Loop ในเรียกว่า Page จะคล้ายกับ OneNote คือ มีหน้าเดียวโดยเราสามารถบันทึกหรือเพิ่มเนื้อหาให้ยาวลงมาได้ไม่จำกัด ในด้านการใช้งาน Block หรือ Component ใน Loop สามารถเลื่อน ขึ้น/ล่าง ได้ แต่ไม่สามารถย้ายตำแหน่งอย่างอิสระไปทาง ซ้ายหรือขวา เพราะแนวคิดในการทำงาน คือ การลำดับความคิดจัดอันดับความสำคัญของแต่ละหัวข้อ ต่างกับ OneNote ที่เน้นการจดบันทึก Idea ความคิดสร้างสรรค์ที่อยากเชื่อมต่อ Idea นั้น กับ รูปภาพอันนี้เป็นต้น



3. สมาชิกสามารถแก้ไขเนื้อหาได้ในหน้าเดียวกัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ จุดนี้ทำให้ Microsoft Loop แตกต่างจาก application อื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี Microsoft Fluid Component ที่ผสาน Function ของ Microsoft Loop เข้ากับ application อื่น เช่น Microsoft Team, Outlook, OneNote และ Whiteboard โดยสามารถเรียกใช้ Function Microsoft Loop จากปุ่มที่ให้ Insert Loop ได้ทันที

และ Review นี้ เราจะไปสำรวจ แง่มุมต่างๆ ที่ช่วยให้ทีมของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณลักษณะที่น่าสนใจ

1. User Friendly

จุดเด่นหลักของ Microsoft Look คือ การใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้อยากสร้างข้อมูลแบบไหนกด / เครื่องหมาย slack เท่านั้นไม่ต้องเข้าเมนูให้ยุ่งยาก การเลื่อนลำดับเพียงคลิกค้างที่หัวข้อ ลากแล้วปล่อยตามลำดับที่ต้องการ

2. Real time Update

เวลาที่ต้องการระดมสมอง ปัญหาอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกัน ก็คือ Latency หรือ เรียกง่ายๆ ว่าการรอหน้าจอ Update ซึ่ง Microsoft Loop มี Latency น้อยมากถ้าเทียบกับ application อื่น ๆ การ Update แบบ Real Time จะส่งเสริมสภาพการมีส่วนร่วมการนำเสนอความคิดของทีมได้ง่าย

3. การผสานรวมกับ application อื่นๆ ของ Microsoft

การผสานเข้ากับ Microsoft Teams

เปลี่ยนการโต้ตอบด้วย Chat ให้เป็น Co-working space เหมาะสำหรับงานประเภท การบันทึก, การ Brainstorm ด้วยเครื่องมือ Paragraph, Bullet Listed, Number List
การบริหารโครงการ และมอบหมายงานด้วย Table, Check list, Task list
การสำรวจความคิดเห็นผ่านเครื่องมือ Vote เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนในองค์กร

การผสานเข้ากับ Microsoft Outlook

เปลี่ยนการอ่านอีเมลเป็น Interactive เช่น
การทำ Poll ผ่าน email เราสามารถกำหนดหัวข้อ Poll ที่แตกต่างกัน เพื่อการสำรวจกลุ่มคนต่างพื้นที่ ช่วงอายุ และสภาพแวดล้อม ภายนอกองค์กรต่อหัวข้อที่เรานำเสนอ และการแสดงผลแบบ Real-Time ทำให้ผู้ Vote ก็เห็นคะแนนโหวตพร้อมกันทุกคน (การแสดงผลเฉพาะ Outlook on web และ Mobile application เท่านั้น)

จุดเด่น

ดังนั้น เมื่อพูดถึงการทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานด้วย UI ที่ใช้งานง่าย ข้อมูลมีการอัพเดทแบบ Real Time และการจัดการเนื้อหาที่มีความยืดหยุ่นสูง รวมทั้งการผสานงานเข้ากับชุดโปรแกรม Microsoft 365 ทำให้ Loop component อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ช่วยให้ทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อ

  1. Feature ต่างๆ ด้วย Concept ที่เน้นการทำงานร่วมกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ Microsoft Loop ยังต้องพัฒนา เพื่อสร้างความแตกต่างจาก application ในกลุ่มเดียวกันที่อยู่มาก่อนอย่าง Notion ซึ่งเครื่องมือมีความครบครันกว่าและเปิด Feature AI ให้ได้ใช้งานแล้ว ถ้าแม้จะจำกัดจำนวนการใช้ก็ตาม ในขณะที่ Feature Copilot สำหรับก็ยังไม่เปิดให้ทดลองใช้
  2. การแชร์แบบ public page ผู้รับจำเป็นต้อง login เข้าบัญชีของ Microsoft เสียก่อน ต่างกับ Notion สามารถดู page ข้อมูลได้โดยไม่ต้อง login จึงทำให้ Notion สามารถแสดงผลบน Social ได้ง่ายกว่า
  3. Loop component ยังแสดงศักยภาพได้ไม่เต็มที่ ปัจจุบันลูกค้าที่เป็นองค์กรและกลุ่มโรงเรียนเท่านั้นที่ใช้ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเปิดสิทธิ์ของ Admin center ด้วย สำหรับ Account ทั่วไป สามารถใช้ตัวเต็มได้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการใช้ Loop component ประสานกับการทำงานภายใน application ก็ต้องจ่าย subscriptions แบบรายปีครับ

สนใจสมัครเข้าใช้งานได้ที่ : Collaborative App | Microsoft 365

Microsoft Designer ออกแบบ Graphic ด้วย AI

หลังจากเปิดตัว Microsoft Designer Platform งานออกแบบที่ใช้งานแบบโคตะระ..ง่าย

ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่จะสร้างประสบการณ์การออกแบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือ มืออาชีพ ก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม

โดยตัวของ Microsoft Designer มี UI ที่ใช้งานง่าย และฟังก์ชั่นการวาง Layout และ องค์ประกอบต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย

ฟีเจอร์ AI คือ จดเด่นที่ช่วยสร้างงานออกแบบเพียง ด้วยการใส่ Prompt Idea ที่ต้องการ เช่น เมื่อเราคีย์ประโยค “Instagram story for vegan recipes” แล้ว Generate คุณก็จะได้ Layout ที่งานเกี่ยวกับ สูตรมังสวิรัติ ทั้งภาพ ข้อความ และการจัดขนาด รวมถึงการวางองค์ประกอบต่างภายในไม่กี่วินาที

ซึ่งสามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมหรือให้แชร์ให้ member เข้ามาทำงานร่วมกันกันบน Microsoft Designer ได้ทันที

แต่ถ้าใครที่มี Ides แต่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ Microsoft Designer มีเทมเพลต และ Prompt ต่างๆ เป็น Guideline ให้คุณลองเล่นมากมาย


1. ช่องสำหรับใส่ Prompt Idea สำหรับสร้างงาน Graphic

พิมพ์ไอเดียที่คุณต้องการสร้างเข้าไป ระบบก็จะ Generate งานออกให้เราทันที ซึ่งผลงานที่ออกมา จะได้ทั้งภาพนิ่ง และ Animation หรือใครที่ต้องการรูปภาพประกอบ ก็เลือกที่ “Generate image” โปรแกรมก็จะพาเราไปอีกหน้าสำหรับการ Generate รูปภาพ


2. ตัวอย่างงานออกแบบ และ Keyword Prompt

ถ้าเราวางเมาท์ที่งานตัวอย่าง ระบบจะแสดง Prompt เมื่อกดที่ตัวอย่าง Prompt ก็จะถูกวางพร้อม Generate ชิ้นทันที เมื่อ Generate แล้วจะได้งานที่เป็นภาพนิ่ง และ Animation สามารถนำไปตกแต่งต่อได้ทันที


3. เครื่องมือในการตกแต่ง

กลุ่มเครื่องมือ Font สี ขนาด รวมถึงการจัดวาง และการปรับขนาด


กลุ่มเครื่องมือ เกี่ยวกับรูปภาพ เช่น การ Crop ใส่เอ็ฟเฟค และ การลบ Background ก็มีให้ใช้ฟรีๆ นะครับ


กลุ่ม Build your brand Kit คือ เครื่องมือในการสร้างชุดสี ฟอนต์ เก็บไว้เป็น Set เพื่อใช้เฉพาะงานออกแบบของสินค้าแต่ละ Brand ทั้งนี้เพื่อประหยัดเวลาในการทำงานและใช้งาน ฟรี ครับ


การ Resize สำหรับการขึ้นงานใน Facebook Instagram twitter Linkin หรือขนาดมาตราฐาน A4 บ้านเราก็มี การปรับขนาดงานก็ทำได้ทันที แต่อาจจะต้องจัดวางขนาดและตำแหน่งนิดหน่อย

ซึ่งนอกจากนี้ Microsoft ยังมี Template สำหรับใช้ในการออกแบบบนโปรแกรมต่างๆ รวมทั้ง Template ที่สามารถนำมาใช้งานบน Microsoft Designer ได้ด้วย

Free templates for social media, documents & designs | Microsoft Create

จุดแข็ง

  • UI สะอาดตาใช้ง่าย และเมนู และเครื่องมือไม่ซับซ้อน
  • สร้าง Layout ได้รวดเร็วด้วยการลากและวาง รูปทรงและข้อความ
  • ผู้ใช้สามารถแบ่งปันโครงการ ร่วมกับผู้อื่นได้แบบเรียลไทม์
  • เป็นเครื่องมือฟรี ดังนั้นจึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น
  • ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องด้วยฟีเจอร์และการปรับปรุงใหม่ๆ
  • มีชุมชนขนาดใหญ่ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ในฟอรัมและในบล็อก

จุดอ่อน

  • ใช้งานผ่านเว็บ ดังนั้นจึงต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน
  • ยังไม่รองรับฟอนต์ภาษาไทย 100%
  • ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ดังนั้นจึงมีข้อบกพร่องและข้อจำกัดบางประการ

โดยรวมแล้ว Microsoft Designer เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายสำหรับการสร้างโครงร่างแบบต้นแบบ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักออกแบบ